เนื้อหาที่ได้รับ
ในวันนี้หนูขาดเรียนเนื่องจากติดธุระ แต่ได้ศึกษาหาข้อมูลจากโซเชียลที่อาจารย์ได้ลงไว้ค่ะ
8.เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
(Children with Behavioral and Emotional Disorders)
-มีความรู้สึกนึกคิดที่ผิดไปจากปกติ
-แสดงออกถึงความต้องการทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
-มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
-เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินานๆ
ไม่ได้
-เด็กที่ควบคุมพฤติกรรมบางอย่างของตนเองไม่ได้
-ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อย
ลักษณะของเด็กบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
•
ความวิตกกังวล (Anxiety) ซึ่งทำให้เด็กมีนิสัยขี้กลัว
•
ภาวะซึมเศร้า (Depression) มีความเศร้าในระดับที่สูงเกินไป
•
ปัญหาทางสุขภาพ
และขาดแรงกระตุ้นหรือความหวังในชีวิต
การจำแนกเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
ตามกลุ่มอาการ
ด้านความประพฤติ
(Conduct Disorders)
-ทำร้ายผู้อื่น ทำลายสิ่งของ ลักทรัพย์
-ฉุนเฉียวง่าย หุนหันพลันแล่น
และเกรี้ยวกราด
-กลับกลอก เชื่อถือไม่ได้ ชอบโกหก
ชอบโทษผู้อื่น
-เอะอะและหยาบคาย
-หนีเรียน รวมถึงหนีออกจากบ้าน
-ใช้สารเสพติด
-หมกมุ่นในกิจกรรมทางเพศ
ด้านความตั้งใจและสมาธิ
(Attention and Concentration)
-จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระยะสั้น (Short
attention span) อาจไม่เกิน 20 วินาที
-ถูกสิ่งต่างๆ
รอบตัวดึงความสนใจได้ตลอดเวลา
-งัวเงีย ไม่แสดงความสนใจใดๆ
รวมถึงมีท่าทางเหมือนไม่ฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูด
สมาธิสั้น
(Attention Deficit)
-มีลักษณะกระวนกระวาย ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ
ได้ หยุกหยิกไปมา
-พูดคุยตลอดเวลา
มักรบกวนหรือเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น
-มีทักษะการจัดการในระดับต่ำ
การถอนตัวหรือล้มเลิก
(Withdrawal)
-หลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
และมักรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น
-เฉื่อยชา และมีลักษณะคล้ายเหนื่อยตลอดเวลา
-ขาดความมั่นใจ ขี้อาย ขี้กลัว
ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก
ความผิดปกติในการทำงานของร่างกาย(Function Disorder)
-ความผิดปกติเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน (Eating
Disorder)
-การอาเจียนโดยสมัครใจ (Voluntary
Regurgitation)
-การปฏิเสธที่จะรับประทาน
-รับประทานสิ่งที่รับประทานไม่ได้
-โรคอ้วน (Obesity)
-ความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งอุจจาระและปัสสาวะ
(Elimination Disorder)
ภาวะความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ระดับรุนแรง
-ขาดเหตุผลในการคิด
-อาการหลงผิด (Delusion)
-อาการประสาทหลอน (Hallucination)
-พฤติกรรมการทำร้ายตัวเอง
สาเหตุ
• ปัจจัยทางชีวภาพ (Biology)
• ปัจจัยทางจิตสังคม (Psychosocial)
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก
-ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
-รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกับครูไม่ได้
-มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
เมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
-มีความคับข้องใจ มีความเก็บกดอารมณ์
-แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ
ปวดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
-มีความหวาดกลัว
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม
ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
• เด็กสมาธิสั้น (Children with Attention
Deficit and Hyperactivity Disorders)
• เด็กออทิสติก (Autistic) หรือ
ออทิสซึ่ม (Autisum)
เด็กสมาธิสั้น
(Children with Attention Deficit Hyperactivity
Disorders)
ADHD เป็นภาวะผิดปกติทางจิตเวช
มีลักษณะเด่นอยู่ 3 ประการ คือ
-Inattentiveness
-Hyperactivity
-Impulsiveness
Inattentiveness (สมาธิสั้น)
-ทำอะไรได้ไม่นาน วอกแวก ไม่มีสมาธิ
-ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำได้นานเพียงพอ
-มักใจลอยหรือเหม่อลอยง่าย
-เด็กเล็กๆจะเล่นอะไรได้ไม่นาน
เปลี่ยนของเล่นไปเรื่อยๆ
-เด็กโตมักทำงานไม่เสร็จตามที่สั่ง
ทำงานตกหล่น ไม่ครบ ไม่ละเอียด
Hyperactivity (ซนอยู่ไม่นิ่ง)
-ซุกซนไม่ยอมอยู่นิ่ง ซนมาก
-เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
-เหลียวซ้ายแลขวา
-ยุกยิก แกะโน่นเกานี่
-อยู่ไม่สุข ปีนป่าย
-นั่งไม่ติดที่
-ชอบคุยส่งเสียงดังรบกวนคนรอบข้าง
Impulsiveness (หุนหันพลันแล่น)
-ยับยั้งตัวเองไม่ค่อยได้
มักทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด วู่วาม
-ขาดความยับยั้งชั่งใจ
-ไม่อดทนต่อการรอคอย หรือกฎระเบียบ
-ไม่อยู่ในกติกา
-ทำอะไรค่อนข้างรุนแรง
-พูดโพล่ง ทะลุกลางปล้อง
-ไม่รอคอยให้คนอื่นพูดจบก่อน
ชอบมาสอดแทรกเวลาคนอื่นคุยกัน
สาเหตุ
• ความผิดปกติของสารเคมีบางชนิดในสมอง เช่น โดปามีน (dopamine) นอร์อิพิเนฟริน (norepinephrine)
• ความผิดปกติในการทำงานของวงจรที่ควบคุมสมาธิ และการตื่นตัว
อยู่ที่สมองส่วนหน้า (frontal cortex)
• พันธุกรรม
• สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมาธิสั้น
-สมาธิสั้น
ไม่ได้เกิดจากความผิดของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกผิดวิธี ตามใจมากเกินไป
หรือปล่อยปละละเลยจนเกินไป และไม่ใช่ความผิดของเด็กที่ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ
แต่ปัญหาอยู่ที่การทำงานของสมองที่ควบคุมเรื่องสมาธิของเด็ก
อยู่ไม่สุข (Hyperactivity )
สมาธิสั้น (Attention Deficit )
สมาธิสั้น (Attention Deficit )
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
• อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน
• ยังติดขวดนม หรือตุ๊กตา และของใช้ในวัยทารก
• ดูดนิ้ว กัดเล็บ
• หงอยเหงาเศร้าซึม การหนีสังคม
• เรียกร้องความสนใจ
• อารมณ์หวั่นไหวง่ายต่อสิ่งเร้า
• ขี้อิจฉาริษยา ก้าวร้าว
• ฝันกลางวัน
• พูดเพ้อเจ้อ
9. เด็กพิการซ้อน
(Children with Multiple Handicaps)
-เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่าง
เป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
-เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน
-เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
-เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด
การนำไปประยุกต์ใช้ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาต่อยอดในการจัดการเรียนการสอนได้ในอนาคต
เมื่อเรียนจบ
ประเมินตนเอง ได้รับความรู้อย่างแน่นและเข้าใจในเนื้อหา
ประเมินเพื่อน เพื่อนน่าจะตั้งใจเรียน
ประเมินอาจารย์ หาข้อมูลมาถ่ายทอดให้นักศึกษาได้ละเอียดและเข้าใจง่าย
No comments:
Post a Comment